บริษัท:
ฮิตาชิ เมทัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชลบุรี
ประเทศที่เลือก: ประเทศไทย
ในฉบับนี้ เราเดินทางไปยังเมืองแห่งรอยยิ้ม และเยี่ยมชมบริษัท ฮิตาชิ เมทัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่โรงงานชลบุรี (HMT-CH) เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลหะ, วัสดุ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ โดยส่วนใหญ่ HMT-CH ผลิตและส่งขายผลิตภัณฑ์เซ็นเซอร์ เช่น ABS (เซ็นเซอร์ความเร็วล้อ) ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง
ประวัติบริษัท
บริษัท ฮิตาชิ เมทัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งครั้งแรกในเดือนมีนาคม ค.ศ.1991 ในขณะที่ฮิตาชิ เมทัลส์ผลิตวัสดุที่หลากหลายให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์งานหล่อประณีต แต่สายงานหลักของธุรกิจในประเทศไทย คือ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์นำไปสู่การจัดตั้งโรงงานชลบุรีในปี ค.ศ.2007 นอกเหนือจากสำนักงานใหญ่และโรงงานในอยุธยา สำนักงานขายตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่ทำหน้าที่ในการขายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฮิตาชิ เมทัลส์ และให้การสนับสนุนทางธุรกิจให้กับบริษัทเหล่านี้ เช่น การจัดซื้อ, คำปรึกษาทางเทคนิค และการสนับสนุนด้านแรงงาน
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง, Lumada และโรงงานอัจฉริยะ
ในข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัท ฮิตาชิ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (Hitachi Asia (Thailand) Ltd.: HAS-TH) กับ HMT-CH ชุดซีรีส์ของ IoT (Internet of Things หรืออินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง) ริเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ.2018 โดยมุ่งเป้าหมายที่จะนำ HMT-CH เสนอเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของโรงงานอัจฉริยะในศูนย์ Lumada Center Southeast Asia ที่ก่อสร้างขึ้นใหม่
ข้อตกลงนี้เป็นส่วนเพิ่มเติมจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ระหว่างสำนักงานระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และฮิตาชิ ที่ได้ลงนามเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อใช้เทคโนโลยี IoT ของ Lumada ในการสร้างโรงงานอัจฉริยะ ซึ่งระยะ 3 เฟสของการเปิดตัว Lumada ในประเทศไทยนั้น เริ่มจากลำดับแรกซึ่งก็คือโรงงานอัจฉริยะ
ภายใต้เฟสแรกนี้ HMT-CH จะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการผลิตด้านภาพ (Visualization Production Process) ของเซ็นเซอร์ ABS โดยสายการผลิตจะเป็นแบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงความสามารถทางการผลิต
1) การใช้ระบบบันทึกการผลิต (Production Record System)
หรือที่เรียกว่างานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Documentation) ทั้งนี้แผ่นเอกสารที่ลงบันทึการผลิตทีละรายการก็จะล้าสมัยไป เพราะการบันทึกด้วยมือมีความเสี่ยงของการสูญหายของข้อมูลหรือข้อมูลไม่ถูกต้อง
ด้วยการเริ่มเข้ามาของการดิจิไทซ์ ทำให้ข้อมูลหรือรายละเอียดถูกแปลงไปสู่รูปแบบดิจิทัล การใช้ระบบบันทึกการผลิตช่วยปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบกลับไปยังแหล่งที่มาโดยภาพรวมในกระบวนการผลิต โดยลดชั่วโมงแรงงานในการปฏิบัติงานและป้องกันข้อผิดพลาด
ในกรณีนี้ ซอฟต์แวร์การบันทึกข้อมูลที่เรียกว่าระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) ถูกพัฒนาให้สามารถป้อนข้อมูลเข้าสู่ซอฟต์แวร์โดยตรง และเก็บบันทึกไว้ในระบบเซิร์ฟเวอร์ของข้อมูล ทำให้การตามรอยของข้อมูลกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย จึงช่วยให้มีการควบคุมคุณภาพที่ดีขึ้น ในเวลาเดียวกันซอฟต์แวร์ยังช่วยให้สามารถติดตามข้อมูลบันทึกการผลิตเมื่อเกิดข้อบกพร่องขึ้น, ช่วยเพิ่มทรัพยากร และลดการสูญเสียของการไหลของผลิตภัณฑ์
2) การใช้ระบบส่งเสริมกิจกรรม kaizen
ระบบนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในช่วงต้นของปฏิบัติการคอขวด และปรับปรุงคุณภาพของการปฏิบัติงาน กระบวนการที่ผิดปกติจะถูกตรวจพบจากข้อมูลกรตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ซึ่งปัญหาจะถูกวิเคราะห์ตามภาพจากกระบวนการทำงานแบบคอขวดหรือข้อมูลวิดีโอ ที่สามารถนำไปปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
3) การใช้ตารางการผลิต
ตารางการผลิตช่วยสร้างแผนการผลิตที่ปฏิบัติได้จริง โดยการปรับระดับน้ำหนักโหลดของแต่ละขั้นตอน ภายใต้ระบบนี้ แผนการผลิตจะได้รับการขัดเกลา โดยพิจารณาถึงข้อจำกัดของทรัพยากร และวันที่ส่งของของสินค้า แล้วหลังจากนั้นจึงปรับระดับแต่ละกระบวนการผลิต
4) การริเริ่มเข้ามาของวิทยาการหุ่นยนต์
ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเฟสของการทดสอบ HMT-CH วางแผนที่จะทำให้สายการประกอบเป็นระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นด้วยการเริ่มใช้งานหุ่นยนต์ โดยหุ่นยนต์หนึ่งตัวสามารถทดแทนคนงาน 3-4 คน และมีระดับประสิทธิภาพที่สูงกว่า ที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับสายการผลิตทัง้หมด
ให้ความสำคัญมากกับพนักงาน
โรงงานมักจะมีการใช้แรงงานมาก ทำให้กลายเป็นเรื่องท้าทายตลอดในการที่จะรักษาขวัญกำลังใจของพนักงานภายใน HMT กิจกรรม monozukuri ของพวกเขาที่มีเป้าหมายในการให้รางวัลแก่พนักงาน, แสดงความขอบคุณซาบซึ้ง เช่นเดียวกับความยุติธรรมในการทำงาน สามารถทำให้อัตราการลาออกของพนักงานจาก 20% เหลือ 0% ในปีค.ศ.2014 ด้วยเหตุนี้ HMT จึงชนะรางวัล Grand Prix of the Inspiration of the Year Global Award 2014 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เช่นเรื่องของเรื่องราวแบรนด์ของพวกเขา คลิกที่นี่
เป้าหมายอนาคตของ HMT-CH
HMT-CH มีเป้าหมายที่จะเป็นโรงงานอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย HMT-CH จะสำรวจค้นหาและใช้งานเทคโนโลยี IoT โดยใช้แพลตฟอร์ม Lumada ต่อไป ในขณะที่การทำงานมุ่งสู่การเป็นบริษัทวัสดุชั้นนำของโลกที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง
นอกจากการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต, ลดระยะเวลาในการผลิตให้สั้นลง และปรับปรุงคุณภาพ HMT-CH ยังหวังว่าจะได้สร้างคุณค่าใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทยด้วยการดึงดูดการลงทุนใหม่จากอุตสาหกรรมการผลิตผ่าน Lumada