ฮิตาชิและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor)

เพื่อสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่จะขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม, เทคโนโลยี และความสร้างสรรค์ รัฐบาลไทยจึงได้เสนอแผนงานที่มีความทะเยอทะยานนี้ ที่เรียกว่า “ประเทศไทย 4.0” ในปี 2016 (พ.ศ.2559)

ภายใต้ประเทศไทย 4.0 รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information technology: IT) เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ในขณะเดียวกับที่กำลังดำเนินงานสร้างระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ทั้งนี้ EEC จะเป็นตัวแทนของความพยายามส่วนสำคัญของรัฐบาลในการทำให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจใหม่ของเอเชีย” ซึ่ง EEC จะครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง ที่อยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย และจะเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการค้าขาย, การลงทุน, การคมนาคมขนส่งในภูมิภาค โดยส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เป็นประตูยุทธศาสตร์ของเอเชีย

Hitachi และประเทศไทย – ตั้งแต่ปี 1936

ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน ปี 2017 (พ.ศ. 2560) Hitachi ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันกับสำนักงาน EEC ในการใช้ผลลัพธ์ด้านนวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งรวมถึง IoT ในเขตเศรษฐกิจใหม่

นับตั้งแต่ปี 1936 (พ.ศ. 2479) Hitachi ได้ให้ความช่วยเหลือในการสร้างสภาพแวดล้อมแห่งนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาในประเทศไทย โดยได้เปิดตัวความสามารถทางธุรกิจในหลากหลายสาขา ได้แก่ ทางรถไฟ, ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม จากการดำเนินการของธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมของ Hitachi บริษัทจะส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี IoT ควบคู่ไปกับ EEC เพิ่มมากขึ้น

รัฐบาลไทยและ Hitachi มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมและเมืองที่ยั่งยืน ที่ซึ่งผู้คนสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายและมีความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็หวังว่าจะสามารถอนุรักษ์สภาพแวดล้อมต่อไป เช่นเดียวกันกับการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

การจัดการต้นทุนและประสิทธิภาพด้วย Hitachi Lumada

ด้วยการใช้แพล็ตฟอร์ม IoT ที่มีความชาญฉลาดและความสามารถในการปรับแต่งได้สูงของ Hitachi ที่เรียกว่า Lumada ทำให้บริษัทสามารถแปลงข้อมูลไปสู่การกระทำที่มีความชาญฉลาด เช่น การจัดการคลังสินค้า และการควบคุมคุณภาพ ที่จะลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อให้สามารถเอาชนะความท้าทายและคว้าโอกาศทางธุรกิจใหม่ๆได้

รัฐบาลไทยและ Hitachi มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมและเมืองที่ยั่งยืน ที่ซึ่งผู้คนสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายและมีความเจริญรุ่งเรือง

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลไทยและ Hitachi จึงจะสามารถส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี IoT ขั้นสูงในประเทศไทย และเปิดตัวผลลัพธ์ด้านดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นผลลัพธ์ที่สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน

โรงงานด้าน IoT ที่ทันสมัย ที่เป็นที่ตั้งของแพล็ตฟอร์ม Lumada กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในประเทศไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการได้ในปี 2018 (พ.ศ. 2561) โดยศูนย์ IoT นี้จะช่วยให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์ของประเทศไทย 4.0